เว้น ห่างกัน ‘คนละครึ่ง’ อย่างไรให้ ‘เราไม่ทิ้งกัน’

แม้สถานการณ์ ‘โควิด’ จะเริ่มซาลง แต่ล่าสุดก็มิวายให้พวกเราต้องตกอกตกใจเมื่อได้รับข่าวคราวโควิดระบาดอีกระลอก ทำให้ต้องพักอยู่บ้าน ‘หยุดเชื้อ เพื่อชาติ’ ไปตาม ๆ กัน แม้จะอยู่ในบ้านก็มิวายให้หวาดหวั่นตามกันว่าภายในบ้านของเรานั้นมีเชื้อโควิดปนเปื้อนหรือ จะหันไปทางใดก็หวาดกลัวไปเสียหมด ในวันนี้ Supertools มีเคล็ดลับดี ๆ จะนำเสนอ 4 วิธีห่างกัน ‘คนละครึ่ง’ อย่างไรให้ ‘เราไม่ทิ้งกัน’



วิธีห่างกันคนละครึ่ง อย่างไร ให้ “ไม่ทิ้งกัน”

รักษาระยะห่าง (Social Distancing)

แม้คำว่า ‘Social Distancing’ จะเป็นคำคุ้นหูในช่วงการระบาดเชื้อครั้งแรก ทว่าไม่อาจละเลยในทุกครั้งที่ต้องใช้ชีวิตทั้งในและนอกบ้าน

จากงานวิจัยศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ‘โควิด-19’ ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เห็นว่าการยืนรักษาระยะห่างเกินให้เกิน 1.5 – 2 เมตร ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อและแพร่ระบาดลดลงจาก 2.35 ถึง 1 ร่วมกับการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ยิ่งช่วยให้ป้องกันจากฝุ่นละอองฝอยและเชื้อที่แพร่สะพัดจากการไอจาม การใช้บริการ เจลล้างมือ ตามจุดต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อการเผลอสัมผัสใบหน้าและดวงตา ซึ่งเป็นส่วนหลักที่คนมักใช้มือสัมผัส



ทำไมคนเราถึงเผลอสัมผัสใบหน้า

            เป็นคำถามพื้นฐานที่นักวิชาการพยายามจะหาคำตอบกันด้วย จากงานวิจัยด้านจิตวิทยา ของวารสาร ‘Brain Research’ได้กล่าวว่า การสัมผัสใบหน้านั้นช่วยลดและควบคุมระดับความเครียดได้ จึงเป็นไปได้ว่า ภาวะการระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คนเครียดและเพิ่มโอกาสการติดเชื้อมากขึ้น แม้จะคนจำนวนหนึ่งเห็นและให้คำแนะนำว่า การให้ข่มใจและทำให้ ‘มือไม่ว่าง’ ด้วยการจับลูกบอลในมือ ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อใดที่เผลอจนแตะจับใบหน้าจนติดเชื้อ  ซึ่งทำให้ผลบานปลายเกินเยียวยา และเครียดหนักกว่าเดิม

แม้ กระบังป้องกันหน้ากาก จะไม่ใช่คำตอบที่ ‘ใช่’ ที่สุด แต่เป็นคำตอบที่ดีที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเปรียบเสมือน ‘โล่’ ที่ใช้กำบังจากสิ่งอันตรายที่คืบคลานเข้ามา และจะดียิ่งกว่าหากเราใช้เป็นหมวกกันสะเก็ต เพราะนอกจากจะทำให้หายใจได้สะดวกกว่าใส่หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษและผ้าธรรมดาแล้ว ยังช่วยป้องกันสะเก็ด ฝุ่นละออง และของแข็งที่พุ่งเข้ากระแทกอีกด้วย

อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ในบ้านดีกว่า
คงไม่ดีนักหากต้องออกไปพบปะสังสรรค์ในที่ซึ่งคับคั่งด้วยผู้คน เพราะการออกจากบ้านแต่ละครั้งนั้นเท่ากับการ ‘วัดดวง’ กันทีเดียว การอยู่ในบ้านหรือ Work From Home จึงเป็นตัวเลือกจำเป็นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการปะทะกับเชื้อโรคและการติดต่อ จนนานวันเข้าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็นำพาเราสู่วิถี ‘New Normal’ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่า คือวิถีใหม่ที่ผู้คนจะต้องปรับตัวจนยอมรับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เป็น ‘ความปกติ’ ประจำวัน

 

แล้วเราจะทำให้เรื่องผิดปกตินั้นเป็นเรื่อง ‘ธรรมดา’ ยิ่งขึ้นได้อย่างไร

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรารู้ว่า การล้างมือให้สะอาด งดออกจากบ้าน และลดการสัมผัสนั้นไม่เพียงพอจะปกป้องเราในแต่ละวัน หากการอยู่บ้านคือทางเลือกแสนปลอดภัย การเลือกหาตัวช่วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่สถานที่พักอาศัยก็เป็นคำตอบที่ไม่เลวทีเดียว การใช้เครื่องพ่นเป็นหนึ่งใน ‘อาวุธ’ ที่เปรียบเสมือนดาบอัศวีนที่ใช้ปราบศัตรูที่ย่างกรายเข้าสู่อาณาจักรที่เรียกว่า ‘ร่างกาย’

เป็นปกติที่มนุษย์จะเกิดความกลัว และเป็นปกติที่มนุษย์จะหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เพียงช่วยความปลอดภัยทางกายเท่านั้น แต่จิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน หากที่พักอาศัยหรือแทบทุกหนทุกแห่งที่สิ่งรับมือจนคนวางใจได้ เหตุการณ์ผิดปกติเหล่านี้ก็จะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องรับมือทุกวันในระดับความกังวลที่ลดน้อยถอยลงจนแทบไม่มี

ห่างไกลแต่กระชับมิตรให้ใกล้ชิดผ่าน Chat&Call
แม้การอยู่ในบ้านจะทำให้เราเจอเพื่อนและคนรักน้อยลงจนรู้สึกเหงา แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ทำให้การทำธุรกรรมสิ่งใดเป็นไปอย่างสะดวก สอดรับกับความต้องการของผู้คนที่ต้องการ ‘ความรวดเร็ว ทันใจ’ ซึ่งนับวันการแชทกันย่อมเป็นการสื่อสารแทนการพูดไปเสียแล้ว

และความรวดเร็วที่ว่านี้ ยังทำให้เรายังสามารถคุยกันได้ในแทบทุกที่ ทุกเวลา เพียงจุ่มปลายนิ้วจรดบนหน้าจอโทรศัพท์และเลือกสินค้า ของสิ่งนั้นก็สามารถเนรมิตจากภาพให้กลายเป็น ‘ของจริง’ ภายในแค่ 1-2 วัน หรืออาจแค่ครึ่งวันก็เป็นไปได้



ทำไมคนส่วนใหญ่ที่ถึงเลือกสั่งซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น

ผลสืบเนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ยังผลให้การเจริญเติบโตของธุรกรรมออนไลน์พุ่งเร็วแบบก้าวกระโดด แทนที่จะบูมในอีก 5 ปีข้างหน้า คนจึงเลือกวิธีชำระช่องทางเงินหรือเลือกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น อีกทั้งยังมีแนวโน้มจะใช้ ‘Bitcoin’ เป็นสกุลเงินดิจิทัลจ่ายแทนเงินสด แถมยันข้อได้เปรียบให้ผู้ใช้บริการได้สิทธิพิเศษอย่าง โปรโมชั่นส่วนลดสินค้า ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า และเพิ่มรายรับที่มีอยู่จากนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยทุกคนออกเงิน ‘คนละครึ่ง’ ได้อย่างสบายอกสบายใจ ทั้งนี้หลายอย่างล้วนมาตามเทรนด์ของโลกตะวันตก โดยเฉพาะประเทศอังกฤษที่เห็นว่า การจ่ายด้วยเงินสดอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ตัวธนบัตรและเหรียญบัตรจะปนเปื้อนและแพร่เชื้อ

ปกป้องคนที่คุณรักจากการห่างไกลโรค
แต่ก่อนนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่าการผสมน้ำยาเพื่อฉีดเช็ดทำความสะอาด แต่การรู้จักส่วนผสมนั้นก็เป็นเรื่องยากและเสียเวลาอยู่ไม่ใช่หน่อย ยันความลำบากว่าตนนั้นจำไม่ได้ว่าจะผสมน้ำยากับอะไรถึงจะได้น้ำยาฆ่าเชื้อโควิดได้ แถมกลิ่นที่ได้จากน้ำยาฆ่าเชื้อก็ไม่พึงปรารถนาเอาเสียเลย หากสถานที่แห่งนั้นเป็นที่พักอ้างแรมอย่างโรงแรมหรือบนเครื่องบิน ลูกค้าคงไม่ประทับใจจนต้องหลีกหนีไม่หลับนอนและร่วมเดินทางอย่างแน่นอน มากไปกว่านั้นที่น้ำยาส่วนใหญ่เมื่อใช้แล้วจะต้องใส่ชุดกำบังยุ่งยาก และหน้ากากครบครันเพื่อไม่ให้ละอองน้ำยาเล็ดลอดเข้าไปในโพรงจมูกจนเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ

 

ใช้น้ำยาอะไรถึงจะดี

การเลือกใช้ Champer Purify ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว และยันผลดีสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย เพียงใช้น้ำยาผสมกับน้ำให้เจือจางกำลังเหมาะ หรือจะใช้แบบเพียวก็ยังได้ และใช้ฉีดทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย พร้อมการทดสอบทางวิทยาศาสตร์จนได้สารฆ่าเชื้อโควิดที่ทรงประสิทธิภาพกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อ ทีโก 51 (Tego 51) ที่เน้นการฆ่าเชื้อ ทว่ายันผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้ไปด้วย อีกทั้งยังมีกลิ่นที่หอม และยังมีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อกลุ่มแอมโฟเทริค ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีความเป็นกลาง (มีทั้งกรดและเบส) จึงช่วยลดความตึงผิว เมื่อผสมกับน้ำจนเจือจาง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้  ไม่เป็นอันตรายต่อเยื้อบุผิวหนัง แม้จะเป็นคนที่มีผิวไวต่อการสัมผัสก็ตาม

แม้สถานการณ์โควิดระลอกสองจะสร้างความไม่มั่นคงกายและจิตใจไปไม่ใช่น้อย แต่หากเรารู้จักวิธีป้องกันและเตรียม ‘อาวุธ’ และ ‘โล่’ ให้ครบมือกับสิ่งที่จะมาถึง Supertools เชื่อว่าพวกเราทุกคนจะสามารถฝ่าวิกฤตินี้และจะรอดพ้น เพราะ ‘เราไม่ทิ้งกัน’

กับโปรโมชั่นสุดคุ้ม ‘ใช้แล้วเป็นมิตร ด้วยชีวิตที่ไม่แพง’ ทั้งเซ็ตจากราคาปกติ 7,600 บาท ลดเหลือเพียง 3,990 บาทเท่านั้น!!! รอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว จำกัดจำนวน 20 ชุด ช้าหมดอดนะจ๊ะ

ติดต่อสอบถามได้